Ad ตรวจความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ - บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์ อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน)

บริการตรวจความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และ

โรคสมองเสื่อมอื่นๆจากเลือด คือการตรวจอะไร

เป็นบริการตรวจวัดระดับโปรตีนก่อโรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ เช่น โรคพาร์กินสัน หรืออาการบาดเจ็บของเซลล์ประสาท จากตัวอย่างเลือดโดยตรวจโปรตีน Amyloid beta 42, Amyloid beta 40, ptau181, ptau217, Neurofilament Light, และ alpha-Synuclein เนื่องจากโรคสมองเสื่อม มักพบปริมาณโปรตีนก่อโรคเหล่านี้สูงขึ้นได้ตั้งแต่ 5-10 ปีก่อนมีอาการ

การตรวจเช็คระดับโปรตีนก่อโรค สามารถช่วยพยากรณ์ความเสี่ยงได้แม่นยำ และสามารถใช้ในการวางแผนการดูแลสุขภาพสมอง ลดความเสี่ยง ชะลอการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริการตรวจความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์

และโรคสมองเสื่อมอื่นๆจากเลือด เหมาะกับใคร

ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัวเป็นอัลไซเมอร์

ตั้งแต่อายุน้อย (early onset Alzheimer's disease)

ผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ เช่น หยุดหายใจระหว่างนอน

ผู้ที่มีภาวะความเครียดสูงต่อเนื่อง

ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ

แพ็คเกจตรวจความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ

ทำไมต้องตรวจความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ กับ BKGI

ใช้เทคโนโลยีล่าสุด Single Molecular Immune detection หรือ SMID ที่มีความไวต่อการตรวจโปรตีนเป้าหมายได้ถึงระดับเฟมโต หรือ 1 ใน พันล้านล้านส่วน (10^-15)
วัดระดับโปรตีนก่อโรคได้จากเลือด
ประสิทธิภาพของการตรวจสูงกว่าร้อยละ 90 เปรียบเทียบกับการเจาะไขสันหลัง และทำ PET scan

คำถามที่พบบ่อย

การตรวจโปรตีนก่อโรคอัลไซเมอร์ คืออะไร

ปกติสมองจะมีการผลิตโปรตีนก่อโรคเหล่านี้ตลอดเวลา อายุที่มากขึ้น ภาวะเครียดเรื้อรัง หรือสุขภาวะที่ไม่ดี หรือมีพันธุกรรมชนิด APOE4 จะทำให้ร่างกายกำจัดโปรตีนเหล่านี้ได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดการสะสมของโปรตีนก่อโรคเหล่านี้ในสมอง จนสุดท้ายสมองเกิดความเสียหาย เกิดเป็นภาวะสมองเสื่อม โดยโรคสมองเสื่อมแต่ละโรคก็จะมีโปรตีนก่อโรคหลักๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น โรคอัลไซเมอร์ มักพบโปรตีนชนิด amyloid beta และ ptau ในขณะที่โรคพาร์กินสัน มักเป็นโปรตีน alpha-synuclein เป็นต้น

อายุเท่าไหร่ถึงควรตรวจ

จากสถิติ พบว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมมากกว่า 50% (ศ.นพ.ประเสริฐ บุญเกิด ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล 16 พฤษภาคม 2565) และโปรตีนก่อโรคเหล่านี้ เริ่มสะสมตัวจนมีค่าสูงได้ตั้งแต่ 5-10 ปีก่อนมีอาการ จึงแนะนำให้เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป เพื่อวางแผนการดูแลสมองและร่างกายต่อไป หรือในกรณีคนในครอบครัวเป็นโรคอัลไซเมอร์ อาจจะตรวจได้ตั้งแต่อายุน้อยกว่า 50 ปี เนื่องจากมีโอกาสได้รับพันธุกรรมที่ส่งผลให้เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ตั้งแต่อายุน้อยๆได้

ตรวจแล้วควรทำอย่างไรต่อ

แพทย์ผู้ดูแล จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงตามเกณฑ์มาตรฐานและอาจจะพิจารณาจากการตรวจอื่นๆเพิ่มเติม และแนะนำการรักษาหรือดูแลที่เหมาะสมตามแต่ละบุคคล

การป้องกันภาวะสมองเสื่อมด้วยตัวเอง สามารถทำได้ตามนี้ (วิไลลักษณ์ ศรีสุระ และคณะ คู่มือแนวทางการป้องกันภาวะสมองเสื่อมสำหรับผู้สูงอายุ กินอย่างไร...ห่างไกลสมองเสื่อม สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข 2560)

ควบคุมน้ำหนัก รักษาดัชนีมวลกาย (BMI) ให้อยู่ในช่วง 18.5-22.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร เพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด หลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, การสูบบุหรี่, และโรคอ้วน.
อาหารสมดุล กินอาหารครบ 5 หมู่ตามสัดส่วน, รวมถึงผักสีเขียวเข้มและผลไม้รสหวานน้อย.
อาหารเช้า มื้อเช้าสำคัญมาก ควรประกอบด้วยข้าว-แป้งหรือธัญพืช, เนื้อสัตว์, ผัก, และผลไม้.
เลือกทานเพื่อสุขภาพ ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว, เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ผลิตภัณฑ์นม, และน้ำมันพืชในการประกอบอาหาร.
หลีกเลี่ยงอาหารไม่ดี อาหารไขมันสูง, หวานจัด, เค็มจัด, และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่.
ดื่มน้ำเพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย.
ออกกำลังกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที.
การฝึกสมอง อ่านหนังสือ, เขียนหนังสือ, เล่นเกม, หรือใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ.
พักผ่อนเพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน.
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ไปตรวจสุขภาพทุกปี และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด.
สังคมและจิตใจ มีสังคมที่ดี, หากิจกรรมทำเพื่อคลายเครียด, และพูดคุยกับผู้อื่นบ่อยๆ.

ช่องทางการติดต่อ

Facebook : แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น

LINE : @bkgi

Tel : 094-616-6878

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้

เปรียบเทียบสินค้า

0/4

ลบทั้งหมด

เปรียบเทียบ