เช็กอาการหลงลืม แบบไหนเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์
อาการหลงลืมเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ บางท่านอาจเคยลืมสิ่งของไว้ที่โต๊ะ หรือลืมเหตุการณ์บางอย่างไป แต่อาการหลงลืมบางประเภท ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม (Dementia) ที่ไม่ควรละเลยจนสายเกินแก้
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างอาการหลงลืมธรรมดากับอาการหลงลืมที่อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ พร้อมแนะนำวิธีการคัดกรองและการดูแลสุขภาพสมองเบื้องต้น เพื่อให้คนที่คุณรัก จดจำเรื่องราวดีๆ ได้เสมอ
อาการหลงลืมธรรมดา VS อาการที่ควรระวัง
อาการหลงลืมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่สำหรับวัยผู้สูงอายุที่สุขภาพร่างกายถดถอย ก็อาจจะเกิดอาการหลงลืมได้ง่ายและบ่อยครั้ง จนลูกหลานเริ่มกังวลว่าอาการเหล่านี้ จะเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมหรือไม่ แต่ใช่ว่าอาการหลงลืมเหล่านั้นจะเกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์เสียหมด เพราะเราสามารถสังเกตอาการเหล่านั้นได้ว่าอาการหลงลืมแบบไหน เสี่ยงต่อโรคร้ายเหล่านั้นบ้าง โดยมีวิธีสังเกต ดังนี้
อาการหลงลืมที่พบได้ทั่วไป
อาการหลงลืมที่พบได้ทั่วไป มักจะเกิดจากการที่ต้องทำหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน จนทำให้สมองไม่ได้ให้ความสนใจในการจดจำ และกลายเป็นการหลงลืมเรื่องนั้น ๆ ในที่สุด และหากสมองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่สำหรับผู้สูงอายุที่มีความเสื่อมซึ่งเกิดขึ้นตามวัย ก็จะทำให้ความสนใจลดน้อยลง โดยเฉพาะการทำอะไรที่ผิดไปจากวิถีชีวิตประจำวันตามความเคยชิน เช่น เผลอเก็บกุญแจไว้ในกระเป๋าเสื้อ แทนที่จะเป็นกระเป๋ากางเกง ทำให้หากุญแจไม่เจอ ก็จะยังถือว่าเป็นอาการหลงๆ ลืม ๆ ทั่วไป ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ- ลืมว่าวางกุญแจหรือโทรศัพท์ไว้ที่ไหน
- ลืมเรื่องบางอย่าง แต่สามารถบอกได้ว่าลืมอะไร
- จำเรื่องราวสำคัญได้ แต่อาจจะใช้เวลานึกนาน
- ไม่หลงทางในสถานที่ที่คุ้นเคย แต่อาจใช้เวลานึก
- บางครั้งนึกคำที่จะพูดไม่ได้
อาการหลงลืมที่ควรสังเกต (อาจเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์)
อาการหลงลืมที่น่ากังวลมักส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งแตกต่างจากการหลงลืมทั่วไปที่มักไม่รบกวนการใช้ชีวิต โดยอาการหลงลืมที่มาจากภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ มักจะเป็นการหลงลืมเหตุการณ์ในช่วงเวลาทั้งช่วง หรือจำไม่ได้เลยว่ามีเหตุการณ์นั้นๆ เกิดขึ้น เช่น
- จำเหตุการณ์หรือคำพูดที่เพิ่งผ่านมาไม่ได้ ลืมสิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น
- สับสนเรื่องเวลา สถานที่ กลับบ้านไม่ถูก หลงทิศทาง
- จำบุคคลที่เคยรู้จักไม่ได้
- เวลาส่องกระจกมักจะคิดว่าไม่ใช่ตัวเอง
- พูดคำหรือประโยคซ้ำๆ มีปัญหาเรื่องการพูด ลืม หรือเรียกสิ่งของไม่ถูก
- ไม่สนใจในสิ่งที่เคยสนใจ เช่น กิจกรรมประจำวัน งานอดิเรก
- มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมอย่างเห็นได้ชัด
- ลืมทักษะ วิธีการใช้เครื่องมือในชีวิตประจำวัน
เข้าใจโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมให้มากขึ้น
ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คืออะไร
ภาวะสมองเสื่อม หรือ Dementia คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมอง มีการสูญเสียเซลล์สมองในหลายส่วน ส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางความคิด ความจำ และพฤติกรรม จนกระทบต่อความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยโรคสมองเสื่อม สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาให้หายขาดได้ เช่น ภาวะสมองเสื่อมจากโรคทางกายภาพ เช่น หลอดเลือดสมองตีบตัน หรือเนื้องอกในสมองบางชนิด และโรคขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
2. ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาไม่หายขาด เป็นภาวะสมองเสื่อมที่พบได้มากที่สุด คิดเป็น 60-80% ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั้งหมด โดยที่โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease) เป็นสาเหตุหลักถึงร้อยละ 50 ของภาวะสมองเสื่อมที่รักษาไม่หายขาดทั้งหมด
อัลไซเมอร์เกิดจากอะไร
โรคอัลไซเมอร์เกิดจากการสะสมของโปรตีนในสมอง ได้แก่ โปรตีนอะไมลอยด์-เบต้า (Amyloid Beta หรือ Aβ) และโปรตีนทาว (Tau Protein) ซึ่งมีผลทำให้เซลล์สมองเสื่อมสภาพ ส่งผลให้สารสื่อประสาทอะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ที่เกี่ยวข้องกับความจำลดลง นำไปสู่การสูญเสียความสามารถในการจดจำ มีอาการหลงลืมและส่งผลต่อการทำงานของสมองส่วนอื่นๆ ต่อไป
อัลไซเมอร์มีกี่ระยะ
โรคอัลไซเมอร์แบ่งออกเป็น 3 ระยะหลักๆ ได้แก่- ระยะแรก: ผู้ป่วยเริ่มมีความจำถดถอย มักถามคำถามซ้ำๆ พูดเรื่องเดิมๆ มีอาการสับสนทิศทาง มีความเครียดและอารมณ์แปรปรวน แต่ยังสามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้
- ระยะกลาง: อาการชัดเจนและรุนแรงขึ้น ความจำแย่ลง เริ่มหลงทาง มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ใช้อุปกรณ์ไม่เป็น แม้จะเคยใช้ได้มาก่อน
- ระยะสุดท้าย: ผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรง ตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างน้อยลง ร่างกายทรุดโทรม รับประทานอาหารได้น้อย เคลื่อนไหวน้อยลงจนถึงไม่เคลื่อนไหว ไม่สื่อสาร และช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของอาการหลงลืมต่างๆ
อาการหลงๆ ลืมๆ เกิดจากขาดวิตามินอะไร
อาการหลงลืมอาจเกิดจากการขาดสารอาหารที่สำคัญ โดยเฉพาะวิตามินบี 12 (B12) และวิตามินบี 9 หรือกรดโฟลิกที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและสมอง รวมถึงวิตามินอีและกรดโอเมก้า-3 ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง และชะลออาการความจำเสื่อมได้
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการหลงลืม
- อายุที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี)
- โรคประจำตัว และโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
- การใช้ยาที่มีผลต่อจิตประสาทต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น ยานอนหลับ
- ปัญหาการนอนหลับ เช่น โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- ภาวะซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล
- พันธุกรรม เช่น ครอบครัวมีคนเป็นโรคอัลไซเมอร์
- การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- การสูบบุหรี่
- การได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะอย่างรุนแรง หรือการกระทบกระเทือนทางสมอง
การตรวจคัดกรองและวิธีดูแลสุขภาพสมอง
การตรวจอัลไซเมอร์ทำได้อย่างไร
ในปัจจุบัน ทางการแพทย์ก็มีวิธีการตรวจคัดกรองอัลไซเมอร์หลายแบบด้วยกัน เช่น
- การตรวจจากเลือด: เป็นการตรวจอัลไซเมอร์ด้วยการวัดระดับโปรตีนบางชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ได้ เช่น Amyloid beta 42, Amyloid beta 40, ptau181, ptau217 โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยอย่าง Single Molecular Immune Detection (SMID)
- การตรวจยีนทางพันธุกรรม: เป็นการตรวจยีนทางพันธุกรรมเพื่อประเมินความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ ผ่านการตรวจหาสายพันธุ์ยีน APOE ซึ่งมีความสัมพันธ์ชัดเจนกับความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
- การประเมินทางคลินิก: โดยแพทย์จะซักประวัติ ทดสอบความจำและการทำงานของสมองด้วยแบบทดสอบต่างๆ
- การตรวจภาพถ่ายสมอง: เช่น MRI, PET Scan เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสมอง
วิธีแก้อาการหลงๆ ลืมๆ และป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- ควบคุมอาหารการกิน: ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักใบเขียวและผลไม้รสหวานน้อย ลดอาหารไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกาย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที เลือกกิจกรรมที่ชอบและทำได้ต่อเนื่อง
- ฝึกสมอง: อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง เช่น ครอสเวิร์ด ซูโดกุ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือภาษาใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเซลล์สมอง
- พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน รักษาคุณภาพการนอนให้สนิท จะช่วยให้สมองกำจัดโปรตีนที่เป็นพิษและของเสียต่างๆ
- ลดความเครียด: ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น โยคะ สมาธิ พูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว
- ตรวจสุขภาพประจำปี: ควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ พิจารณาตรวจคัดกรองโรคอัลไซเมอร์หากมีความเสี่ยง
อาการหลงลืมเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป แต่หากอาการหลงลืมนั้นมีลักษณะผิดปกติและเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ผู้มีอาการหรือบุคคลใกล้ชิดก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสม โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลและชะลอการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแม้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะยังไม่มียารักษาให้หายขาดในปัจจุบัน แต่การป้องกันและดูแลสุขภาพสมองที่ดีตั้งแต่ต้นก็จะช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้
- การตรวจคัดกรองพาหะโรคทางพันธุกรรมสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตร หรือมีบุตรยาก
- การตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีนก่อมะเร็ง เพื่อหาตัวยาในการรักษาแบบเฉพาะบุคคล
- การตรวจคัดกรองความเสี่ยงยีนก่อโรคการเกิดมะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- การตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ รวมถึงมะเร็งปากมดลูกและ COVID-19
- การตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมเฉพาะบุคคลเพื่อวางแผนสุขภาพและชะลอวัย
โทร: 094 616 6878
อีเมล: marketing@bangkokgenomics.com
เว็บไซต์: www.bangkokgenomics.com
ที่อยู่: 3689 ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. 10110
เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.30-17.30 น., เสาร์ 9.00-15.00 น.